ทำยังไงดีเมื่อท้องเสีย อ่อนเพลีย ไม่มีแรงIdea Irin16 ก.ย. 2564ยาว 1 นาที อาการท้องเสีย หรืออุจจาระร่วงเป็นอาการไม่พึ่งประสงค์ที่ใครหลายๆคนพบเจอได้ และอาจบรรเทา จนหายได้เองภายในไม่กี่วัน โดยลักษณะอาการดังกล่าวคือ มีการถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายออกเป็นน้ำ มีการถ่ายท้องมากกว่า 3 ครั้งในหนึ่งวัน มีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ ปวดท้องมากกว่าปกติ และถ่ายเป็นมูกเลือดได้ นอกจากนี้แล้วโรคอุจจาระร่วงยังสามารถจำแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ อุจจาระร่วงที่เฉียบพลัน โดยจะมีอาการแสดงน้อยกว่า 7วัน และ อุจจาระร่วงเรื้อรังที่มีอาการมากกว่านานกว่า 7วัน ซึ่งจะต้องตรวจรับการรักษาอย่างถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคอุจจาระร่วงมีสาเหตุที่สามารถพบได้หลักๆ 3 อย่างได้แก่ 1. อาหารเป็นพิษ 2. การติดเชื้อไวรัสโรต้า 3. การติดเชื้ออหิวากตโรค อาหารเป็นพิษเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงที่พบได้บ่อยในบริเวณประเทศเขตร้อน ในหน้าร้อน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารที่ได้มีการปรุงสุกล่วงหน้าไว้เป็นเวลานาน เนื่องจากระหว่างเวลานั้นสามารถมีเชื้อแบคทีเรียบางชนิดมาเจริญเติบโตและสร้างสารพิษทิ้งไว้บนอาหาร โดยสารพิษดังกล่าวนั้นจะทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าร่างกายมีอาการอุจจาระร่วงเป็นน้ำ และปวดท้องได้ แม้อาหารจะได้รับการอุ่นร้อน แต่สารพิษบางชนิดก็มีคุณสมบัติที่ต้านทานความร้อน จึงไม่สามารถถูกทำลายได้ ดังนั้นวิธีป้องกันอาหารเป็นพิษที่ดีที่สุดคือการ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ การติดเชื้อไวรัสโรต้านอกจากจะทำให้อุจจาระร่วงแล้ว ยังมี ไข้ ปวดท้อง และอาเจียนเป็นอาการแสดงอีกด้วย โดยปกติแล้วการติดเชื้อนี้สามารถพบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี มักเกิดขึ้นในฤดูหนาว และเกิดอาการที่รุนแรงได้ ไวรัสนี้จะเจริญเติบโตและทำลายเยื้อบุลำไส้เล็ก ซึ่งส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมน้ำและสารอาหารได้ ก่อให้เกิดอาการท้องเสียเฉียบพลัน ในธรรมชาติแล้ว ไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายและส่งต่อได้ผ่านทางการบริโภคสิ่งที่ปนเปื้อนหลังจากมีการสัมผัสอุจจาระ (Fecal-Oral route) เพราะฉะนั้นการป้องกันสามารถปฏิบัติได้โดยการ หมั่นล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของต่อจากผู้ป่วย หรือการฉีดวัคซีน ในปัจจุบันอาการท้องเสียจากอหิวากตโรคอาจจะพบได้ไม่บ่อยนักในประเทศไทย แต่มีความสำคัญเพราะคนไข้สามารถมีอาการแสดงได้ตั้งแต่น้อยไปจนรุนแรง และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาจเกิดภาวะอุจจาระร่วงที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำขั้นถึงชีวิตเลยก็ได้ การติดเชื้อแบคทีเรียนี้มักเกิดขึ้นได้จากการ บริโภคน้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคจากอุจจาระของผู้ติดเชื้อ โดยลักษณะอาการที่รุนแรงคือ มีการอุจจาระเป็นสีน้ำซาวข้าว มีมูก และมีกลิ่นคาว ซึ่งการป้องกันก็สามารถทำได้โดยการบริโภคน้ำและอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ และการล้างมือให้สะอาด ปกติแล้วโรคอุจจาระร่วงทั่วไปสามารถดีขึ้น และหายได้เองภายใน 3-7วัน โดยระหว่างระยะเวลาที่มีอาการนั้นผู้ป่วยสามารถบริโภคสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ และดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยทดแทนน้ำและแร่ธาตุในส่วนที่ขาดหายไปได้ แต่หากพบว่ามีอาการที่รุนแรง หรือเรื้อรังมากขึ้น ก็ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง และทันกาล
อาการท้องเสีย หรืออุจจาระร่วงเป็นอาการไม่พึ่งประสงค์ที่ใครหลายๆคนพบเจอได้ และอาจบรรเทา จนหายได้เองภายในไม่กี่วัน โดยลักษณะอาการดังกล่าวคือ มีการถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายออกเป็นน้ำ มีการถ่ายท้องมากกว่า 3 ครั้งในหนึ่งวัน มีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ ปวดท้องมากกว่าปกติ และถ่ายเป็นมูกเลือดได้ นอกจากนี้แล้วโรคอุจจาระร่วงยังสามารถจำแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ อุจจาระร่วงที่เฉียบพลัน โดยจะมีอาการแสดงน้อยกว่า 7วัน และ อุจจาระร่วงเรื้อรังที่มีอาการมากกว่านานกว่า 7วัน ซึ่งจะต้องตรวจรับการรักษาอย่างถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคอุจจาระร่วงมีสาเหตุที่สามารถพบได้หลักๆ 3 อย่างได้แก่ 1. อาหารเป็นพิษ 2. การติดเชื้อไวรัสโรต้า 3. การติดเชื้ออหิวากตโรค อาหารเป็นพิษเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงที่พบได้บ่อยในบริเวณประเทศเขตร้อน ในหน้าร้อน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารที่ได้มีการปรุงสุกล่วงหน้าไว้เป็นเวลานาน เนื่องจากระหว่างเวลานั้นสามารถมีเชื้อแบคทีเรียบางชนิดมาเจริญเติบโตและสร้างสารพิษทิ้งไว้บนอาหาร โดยสารพิษดังกล่าวนั้นจะทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าร่างกายมีอาการอุจจาระร่วงเป็นน้ำ และปวดท้องได้ แม้อาหารจะได้รับการอุ่นร้อน แต่สารพิษบางชนิดก็มีคุณสมบัติที่ต้านทานความร้อน จึงไม่สามารถถูกทำลายได้ ดังนั้นวิธีป้องกันอาหารเป็นพิษที่ดีที่สุดคือการ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ การติดเชื้อไวรัสโรต้านอกจากจะทำให้อุจจาระร่วงแล้ว ยังมี ไข้ ปวดท้อง และอาเจียนเป็นอาการแสดงอีกด้วย โดยปกติแล้วการติดเชื้อนี้สามารถพบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี มักเกิดขึ้นในฤดูหนาว และเกิดอาการที่รุนแรงได้ ไวรัสนี้จะเจริญเติบโตและทำลายเยื้อบุลำไส้เล็ก ซึ่งส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมน้ำและสารอาหารได้ ก่อให้เกิดอาการท้องเสียเฉียบพลัน ในธรรมชาติแล้ว ไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายและส่งต่อได้ผ่านทางการบริโภคสิ่งที่ปนเปื้อนหลังจากมีการสัมผัสอุจจาระ (Fecal-Oral route) เพราะฉะนั้นการป้องกันสามารถปฏิบัติได้โดยการ หมั่นล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของต่อจากผู้ป่วย หรือการฉีดวัคซีน ในปัจจุบันอาการท้องเสียจากอหิวากตโรคอาจจะพบได้ไม่บ่อยนักในประเทศไทย แต่มีความสำคัญเพราะคนไข้สามารถมีอาการแสดงได้ตั้งแต่น้อยไปจนรุนแรง และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาจเกิดภาวะอุจจาระร่วงที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำขั้นถึงชีวิตเลยก็ได้ การติดเชื้อแบคทีเรียนี้มักเกิดขึ้นได้จากการ บริโภคน้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคจากอุจจาระของผู้ติดเชื้อ โดยลักษณะอาการที่รุนแรงคือ มีการอุจจาระเป็นสีน้ำซาวข้าว มีมูก และมีกลิ่นคาว ซึ่งการป้องกันก็สามารถทำได้โดยการบริโภคน้ำและอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ และการล้างมือให้สะอาด ปกติแล้วโรคอุจจาระร่วงทั่วไปสามารถดีขึ้น และหายได้เองภายใน 3-7วัน โดยระหว่างระยะเวลาที่มีอาการนั้นผู้ป่วยสามารถบริโภคสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ และดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยทดแทนน้ำและแร่ธาตุในส่วนที่ขาดหายไปได้ แต่หากพบว่ามีอาการที่รุนแรง หรือเรื้อรังมากขึ้น ก็ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง และทันกาล
Comments