top of page
Writer's pictureChotipat Chotsabchonlakorn

Influenza, a common disease that is not common in the era of Covid-19


ไข้หวัดเป็นโรคที่สามารถพบได้ทั่วไป ในประชากรทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็ก วัยรุ่น วัยทำงาน จนไปถึง ผู้สูงอายุกันเลยทีเดียว โดยสถิติแล้วในปี พ.ศ. 2562 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เพียงอย่างเดียว สูงถึง 390,733 ราย ซึ่งถือว่าสูงมากๆเลย นอกจากนี้ในเด็กเล็กจะสามารถพบเจอโรคหวัดได้บ่อยถึง 6-8 ครั้งภายในระยะเวลา 1ปี แต่ทว่า โรคไข้หวัดนั้นคืออะไร มีสาเหตุมาจากไหน อาการเป็นอย่างไร สามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้อย่างไร ควรพบแพทย์เมื่อไหร่ และสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีใด วันนี้ DooRae จะมาช่วยไขข้อสงสัยกัน

โรคไข้หวัดคือโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน ตั้งแต่บริเวณของโพรงจมูกถึงลำคอ และในกรณีที่เป็นโรคไข้หวัดที่รุนแรงอาจมีการติดเชื้อสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างร่วมด้วย ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นโรคในส่วนของทางเดินหายใจ ก็จะแสดงให้เห็นถึงความสามรถของโรคในการแพร่กระจายได้ง่ายหากมีผู้ติดเชื้ออยู่อาศัยร่วมด้วยภายในชุมชนหรือบริเวณเดียวกัน เนื่องจากเชื้ออาศัยสารคัดหลั่งของผู้ป่วยเป็นสื่อกลางของการแพร่กระจายและติดต่อสู่รายถัดไป

อาการของโรคไข้หวัดมีได้ตั้งแต่ เป็นไข้ ไอ หนาวสั่น เจ็บคอ มีเสมหะ หรือน้ำมูก ปวดหัว เหนื่อยล้าและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามตัว แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคหวัดนี้ก็ไม่ได้จำเป็นว่าทุกคนจะมีไข้เสมอไปตามที่หลายๆคนอาจเข้าใจ เราจึงต้องหมั่นสังเกตุอาการแสดงเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากผู้ป่วย


โรคไข้หวัดมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคสองชนิดหลักๆได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส จากที่พบได้ในผู้ป่วย ส่วนมากจะเป็นการติดเชื้อของไวรัส โดยชนิดการติดเชื้อของผู้ป่วยสามารถจำแนกได้จากอาการแสดง หากติดเชื้อจากแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีเสมหะ และน้ำมูกที่เปลี่ยนสีไป เช่น เหลือง หรือเขียว แต่หากเป็นเชื้อไวรัส น้ำมูก และเสมหะจะมีสีที่ใส ซึ่งการจำแนกอย่างถูกต้องนี้จำเป็นต่อการรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ และถูกวิธี


โดยปกติแล้วผู้ป่วยโรคหวัด 70%-80% สามารถหายจากอาการได้ด้วยตนเอง ภายในสองถึงสามวันซึ่งการพักผ่อนก็ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการหายจากโรค เนื่องจากช่วงเวลาที่เรานอน ร่างกายเราจะทำการซ่อมแซม และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างดี นอกจากนี้แล้วคนไข้ยังสามารถทานยาเพื่อรักษาตามอาการได้ หากเป็นการติดเชื้อจากไวรัส เพราะในปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้อย่างโดยตรง ถ้าหากมีไข้ ก็สามารถทานยาพาราเซตามอล หรือเช็ดตัว เพื่อช่วยลดไข้ได้ หรืออาจจะเป็นยาลดน้ำมูก และขับเสมหะ ตามอาการที่แสดงได้ แต่หากคนไข้สังเกตุว่าเป็นการติดเชื้อจากแบคทีเรีย การรับประทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามที่แพทย์สั่งอย่างถูกต้องและครบถ้วน จะสามารถทำให้รักษาหายจากหวัดได้เร็วมากขึ้น ทั้งนี้การใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือยาปฏิชีวะนะ(Antibiotic) นั้นควรใช้ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์อย่างเคร่งขัด และไม่ควรใช้พร่ำเพื่อ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา ที่จะสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้นในคนไข้ได้


การป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายของโรคไข้หวัดสามารถทำได้โดยเริ่มต้นจากตัวของทุกๆคนเอง ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปในที่สาธารณะ นอกจากวิธีนี้จะเป็นการป้องกันเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแล้ว ยังสามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากตัวเราสู่สาธารณะได้อีกด้วย การทานร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือ คือประโยคที่ได้ยินบ่อยๆ และถ้านำมาใช้ก็จะสามารถช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้ เนื่องจากเป็นการลดการสัมผัสและรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย และหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือการรับวัคซีน เพื่อกระตุ้นและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันก่อนได้รับเชื้อ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโควิด-19 แต่ในปัจจุบันก็อาจจะยังไม่ได้มีวัคซีนป้องกันที่ครอบคลุมเชื้อโรคจากทุกสายพันธ์ เราจึงยังคงต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ


หากคุณมีอาการไม่พึ่งประสงค์ที่มีอาการแสดงเหมือนโรคไข้หวัด ก็สามารถเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และรับยาได้ที่ตู้ DooRae ซึ่งพวกเราให้บริการโทรเวชกรรม(Telemedicine) ที่สะดวกสามารถเข้าถึงได้จากทุกพื้นที่ และลดการสัมผัสอีกด้วย



1 view0 comments

Recent Posts

See All

コメント


bottom of page